"แม่ชี" เจอวิจารณ์หนัก หลังขายบ้านหรู บริจาคเกลี้ยง 29 ล้าน ปล่อยลูกสาวไม่มีเงินเรียน
LIEKR:
การบริจาคเป็นเรื่องที่ดี แต่หากทิ้งความลำบากไว้ให้คนข้างหลัง ยังจะถือว่าดีหรือไม่ นี่เป็นเรื่องราวของแม่ชีละทางโลก ขายบ้านหรู บริจาคเกลี้ยง 29 ล้าน ปล่อยลูกสาวลำบากไม่มีแม้เงินเรียน ต้องเป็นหนี้เงินกู้
เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า โซเชียลมีเดียของจีนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เดือด หลังจากแม่ชีรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอตัดสินใจขายบ้านมูลค่า 5.88 ล้านหยวน หรือกว่า 29 ล้านบาท และบริจาคเงินทั้งหมดให้กับการกุศล โดยไม่เหลือเงินสักเหรียญมาช่วยเหลือลูกสาวที่กำลังลำบาก จนต้องกลายเป็นหนี้เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัย
โดยแม่ชีที่ไม่เผยชื่อ เล่าว่าเธอเพิ่งจะเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเมื่อปี 2562 และตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติของตัวเองไป
"หลังมาเป็นชี ฉันก็ขายบ้านและบริจาคเงินทั้งหมดโดยไม่เหลือไว้ให้พ่อแม่หรือลูกสาวเลยสักสตางค์เดียว" แม่ชี กล่าว
แม่ชียอมรับว่า ในขณะที่พ่อแม่ของเธอยังมองโลกด้านบวก โดยบอกว่านั่นเป็นเงินของเธอ เธอจะใช้จ่ายยังไงก็เรื่องของเธอ แต่ดูเหมือนลูกสาวจะไม่เข้าใจการตัดสินใจนี้ และตอนนี้ลูกสาวก็ต้องไปยืมเงินกู้เพื่อการศึกษา มาเพื่อจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง
"เธอบอกว่าหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็จะไปทดสอบเอาใบรับรองคุณวุฒิบางอย่าง หลายปีหลังจากนั้นอาจจะแต่งงานหรือซื้ออพาร์ตเมนต์ ก็เลยหวังว่าแม่จะช่วยเหลือเธอเรื่องการเงินบ้าง" แม่ชี เผย
ทั้งนี้ แม่ชียอมรับว่าทางครอบครัวยังติดใจสงสัยเรื่องที่เธอเปลี่ยนศาสนา และไม่สนับสนุนการตัดสินใจสละทรัพย์สินเช่นนี้ แต่เธอมองว่าพวกเขายังเป็นฆราวาส จึงยังอาจจะมีความสงสัยในใจ
เมื่อถามถึงสถานที่ที่เธอใช้ชีวิตอยู่ตอนนี้ แม่ชีเผยว่าเป็น "มุมลึกในป่า"
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก็มีคนเข้ามาชมกว่า 220 ล้านวิว โดยมีอีกหลายพันคนเข้ามาถกเถียงกันถึงเรื่องจูงใจของแม่ชี ที่เลือกบริจาคทรัพย์สินจนหมดแต่ไม่ช่วยลูกสาวตัวเอง
"ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าคุณไม่อยากทิ้งเงินไว้ให้ลูกสาวของตัวเอง แล้วจะให้กำเนิดลูกมาทำไม คุณก็แค่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบขอบตัวเอง", "เธอทั้งบ้าและเห็นแก่ตัวมาก", "คุณไม่ช่วยครอบครัวตัวเอง แล้วจะไปช่วยคนอื่นได้ยังไง", "เป็นคนนับถือพุทธที่ดี แต่อาจจะไม่ใช่แม่ที่ดี"
ที่มา : เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์