เพชรที่ว่าแพงยังต้องหลบให้ คีนัม ไม้แพงหายากมาก ซึ่งวัดบางกระดานก็มีต้นไม้ชนิดนี้
LIEKR:
ช่วงนี้หลายคนก็พยายามหารายได้เสริมดิ้นรนสุดชีวิต และคิดในใจว่าหากมีทองคำ หรือของมีค่าก็คงจะดี แต่คุณทราบหรือไม่ว่า ยังมีวัสดุที่หายากและมีค่าที่สุดในโลก นอกเหนือจาก อัญมณี เพชร แพลตินัม หรือทองคำ นั้นก็คือ ไม้ชนิดหนึ่งที่มีความหายากและมีราคาแพงกว่าเพชรบางชนิดเสียอีก
มันก็คือ คีนัม (Kinam, Kynam) หรือ คิอาระ (Kyara) ในภาษาญี่ปุ่น คือ ไม้กฤษณา หรือ ไม้หอมชนิดหนึ่งที่มีความหายากมาก โดยถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมและธูปหอมเนื่องจากมันมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และมีความหอมที่รุนแรงมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือมันคือไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก แถมยังเป็นหนึ่งในวัสดุทางธรรมชาติที่แพงที่สุดอีกด้วย ฟังแล้วยิ่งน่าสนจมากยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว ไม้กฤษณา หรือ ไม้หอม เป็นไม้ทรงคุณค่ามาแต่โบราณ มีการนำมาใช้ประกอบทางยาในแพทย์ ในแถบทวีปเอเชีย และการนำมาใช้เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมเพื่อการบำบัดหรือทำให้เกิดสุนทรียภาพทางอารมณ์ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรู้จักกันดีในนาม “Aromatherapy” ทั้งนี้ ไม้กฤษณาทุกประเภทล้วนมีราคาค่อนข้างแพงอยู่แล้ว ในประเทศไทยเองก็มีไม้กฤษณาอยู่ 4 ชนิด ซึ่งมีราคาแตกต่างออกไปตามเกรดของไม้ 4 ระดับ อ้างอิงจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริระบุว่า ไม้กฤษณาเกรด 1 ที่ดีที่สุดมีราคาอยู่ที่ 15,000 ถึง 20,000 บาทต่อกิโลกรัม แต่นั่นก็ไม่อาจเทียบเท่ากับ ไม้กฤษณาคีนัม
ส่วนในคาบสมุทรอาหรับเรียกไม้หอมชนิดนี้ว่า อูด (Oud) เป็นการอธิบายถึงไม้ที่มียางสีเข้ม โดยไม้เนื้อหอมเหล่านี้เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวอาหรับในตะวันออกกลางอย่างมาก และมีการนำไปใช้ประกอบในพิธีกรรมทางศาสนารวมถึงถูกใช้เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือน
กุญแจสำคัญของไม้กฤษณาก็คือ “น้ำมัน” ที่ถูกผลิตออกมาภายในเนื้อไม้ของต้นกฤษณา หากไม้ที่มีน้ำมันอยู่ในเนื้อไม้ปริมาณมากจะถือว่าเป็นไม้ที่มีคุณภาพและมีกลิ่นหอมมาก แน่นอนว่าก็จะมีราคาขายที่สูงตามมาด้วย ทั้งนี้การที่ต้นกฤษณาจะผลิตน้ำมันออกมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย
มีทฤษฎีที่เชื่อว่าน้ำมันในเนื้อไม้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อต้นไม้มีความเครียดหรือเกิดอันตราย เช่น ถูกฟ้าผ่า การถูกมดหรือผึ้งรุกราน หรือแม้กระทั่งได้รับความเสียหายจากสัตว์ใหญ่ และสุดท้ายก็คือการติดเชื้อราบางชนิด
ด้วยเหตุนี้ทำให้มนุษย์เราเรียนรู้วิธีการกระตุ้นให้ต้นกฤษณาสร้างน้ำมันออกมาด้วยการแพร่กระจายเชื้อราที่ชื่อว่า Phialophora parasitic ซึ่งกลายเป็นวิธียอดนิยมที่ผู้คนใช้กัน ในขณะที่ไม้กฤษณาที่มาจากสวนมักมีราคาถูกเนื่องจากมันถูกเก็บเกี่ยวหลังจากติดเชื้อได้ไม่กี่ปี แต่ไม้กฤษณาที่ได้จากป่าจะมีราคาแพงกว่ามากเพราะบางครั้งมันมีอายุหลายร้อยปี และไม่มีไม้กฤษณาที่ไหนแพงเทียบเท่าไม้คีนัมได้
อลัน มาฮาฟฟีย์ พ่อค้าไม้กฤษณา กล่าวกับอัลจาซีราว่า “นอกเหนือจากไม้กฤษณาที่ดีที่สุด ยังมีไม้ที่หายากกว่ามากที่เราเรียกมันว่า คีนัม มันเป็นไม้ที่หายากที่สุดในโลก หายากยิ่งกว่าไททาเนียม ยูเรเนียม แพลตตินัม หรือ เพชร มันอาจมีราคาสูงถึง 10,000 ดอลลาร์ (ราว 3.2 แสนบาท) สำหรับน้ำหนักแค่ 1 กรัมเท่านั้น”
“เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่เซี่ยงไฮ้ พวกเขาขายไปชิ้นหนึ่ง เป็นไม้คีนัม 2 กิโลกรัมมีราคาสูงถึง 18 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นมันจึงมีราคาเท่ากับ 9 ล้านดอลลาร์ต่อกิโลกรัม (ราว 288 ล้านบาท)” ส่วนไม้คีนัมที่ใหญ่ที่สุดของมาฮาฟฟีย์เป็นไม้อายุ 600 ปี และมีน้ำหนัก 16 กิโลกรัม เขาใช้เวลา 5 ปีในการค้นหาและขายมันไปได้ในราคา 20 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 640 ล้านบาทในปี 2016 หลังจากนั้นความต้องการและราคาไม้กฤษณาคุณภาพสูงก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
อัลจาซีราระบุว่า ภายใน วัดบางกระดานของไทยมีต้นกฤษณาอายุกว่า 200 ปีที่เชื่อว่าจะสามารถผลิตไม้คีนัมได้
พระภิกษุรูปหนึ่งกล่าวว่า มีนักลงทุนชาวญี่ปุ่นได้เสนอราคาให้กับต้นไม้นี้ในราคาสูงถึง 23 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 736 ล้านบาท แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไป และในปัจจุบันมันก็ได้รับการคุ้มครองโดยกองทัพไทย ซึ่งด้วยราคาสูงขนาดนี้จึงทำให้ต้นกฤษณากลายเป็นต้นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกก็ว่าได้
ในทุกวันนี้ คีนัมกลายเป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ถูกตามล่า แน่นอนว่าต้นกฤษณาเก่าแก่ภายในป่าจะเริ่มหายากขึ้นทุกวัน และมันจะส่งผลให้ราคาของไม้กฤษณาสูงขึ้นตามไปด้วย มาดูคนไทยเรามีวิธีอย่างไรในการดูแลต้นไม้กฤษณาเพื่อให้มีน้ำมันหอมมากที่สุด
ชมคลิป
คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิก <<<
ที่มา: odditycentral,yuzhioud