เปิดที่มากว่าจะเป็น "กะทิชาวเกาะ" ที่1 ของโลก ต้องอ้อนวอนแม่ค้าซื้อ ก่อนพลิกชีวิตกำไร 6 พันล้าน!

LIEKR:

เปิดที่มากว่าจะเป็น "กะทิชาวเกาะ" ที่1 ของโลก ต้องอ้อนวอนแม่ค้าซื้อ ก่อนพลิกชีวิตกำไร 6 พันล้าน!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ  

        ชื่อของกะทิสำเร็จรูป “ชาวเกาะ” คุ้นหูคนไทยมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ เพราะเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจระดับโลกนี้ เกิดจากความมานะบากบั่นของผู้ที่มีฉายาว่า “นายแม่” จรีพร เทพผดุงพร ผู้ก่อตั้งรุ่นแรก ในวัย 86 ปี เธอผ่านความยากลำบาก เสียน้ำตาให้กับความพลาดหวังนับไม่ถ้วนกว่าจะมีวันนี้

        60 ปีที่แล้ว “จรีพร เทพผดุงพร” และ สามี “อำพล เทพผดุงพร” เริ่มต้นอาชีพในวงการค้ามะพร้าว จากการเป็นเเม่ค้าขายมะพร้าวลูก เเถวริมฝั่งเเม่น้ำเจ้าพระยาย่านตลาดท่าเตียน ภายใต้ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัดอุดมมะพร้าว

        จรีพร เริ่มต้นจากศูนย์ จากแม่ค้าที่จบการศึกษาเพียงชั้นประถมสี่ แต่เธอมองว่าการศึกษาสำคัญ จึงส่งลูกทุกคนเรียนให้สูงที่สุด

        “ก็ฉันเรียน ป.4 วัดศาลาแดง เเล้วเรียนไม่ใช่ว่าเรียนง่ายๆ เช้าๆ ต้องไปเรียนเเต่เช้า กลางวันต้องกลับมาทานข้าวที่บ้าน ทำงานทุกวัน ใจเราคิดไว้ว่าเราไม่มีความรู้ เเต่ต้องให้ลูกเรามีความรู้ทุกคน พยายามที่สุด ลูกเราต้องเรียนไปเมืองนอกด้วย ทุกคนเลย”

        จรีพร มีทายาทถึง 5 คน เธอพยายามส่งเสียลูกทุกคนให้เรียนสูงๆ จุดเริ่มต้นของกะทิชาวเกาะ เกิดขึ้นเมื่อลูกชายจบการศึกษาจากต่างประเทศ และแนะนำให้เปลี่ยนจากการขายมะพร้าวลูก มาผลิตกะทิสำเร็จรูปแบบพาสเจอร์ไรส์ จรีพร เชื่อมั่นในตัวลูกชาย จึงยอมเปลี่ยนทั้งที่ไม่รู้ว่า จะขายได้หรือไม่

.

        เริ่มแรก ตลาดไม่ตอบรับกะทิสำเร็จรูป แต่จรีพร บอกว่าเธอท้อไม่ได้ แม้จะเหนื่อยจนสายตัวเเทบขาด และร้องไห้แทบทุกคืน 

        “ทำกะทิ เริ่มแรกก็ขายไม่ได้ เอาไปให้เเม่ค้า ไปอ้อนวอนเค้า บอกว่าช่วยซื้อหน่อย เขาก็บอกไม่เอา ไม่เป็นไรช่วยเหอะ ขายได้ก็เก็บเงิน ขายไม่ได้ก็ไม่เอาเงิน เราก็มานั่งร้องไห้ ว่าเอ๊ะเราทำแบบนี้ เราจะสู้ต่อไปไหมเนี้ย กลางคืนนอนร้องไห้ คิดว่าจะทำยังไงดี ใจหนึ่งต้องสู้ บอกลูกๆ ว่าไม่เป็นไรขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

        ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ทดลองใช้ฟรี “จรีพร” ใช้เวลา 3 ปี ผลผลิตกะทิชาวเกาะของเธอ จึงได้รับการยอมรับในที่สุด และพัฒนาเรื่อยมากระทั่งอาณาจักรของเทพผดุงพรมะพร้าว มีมูลค่าธุรกิจสูงถึงปีละ 6 พันล้านบาท และธุรกิจยังคงเป็นกิจการในครอบครัว จากรุ่นสู่รู่น ปัจจุบันทายาทรุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3 ในตระกูล “เทพผดุงพร” เข้ามาบริหารงานทั้งหมดแล้ว

        จรีพร ย้ำกับลูกๆ ทุกคนให้อดทน เผชิญหน้ากับความลำบาก และวันข้างหน้าจะดีขึ้นเอง วันนี้ลูกๆ ทุกคนของจรีพร ภาคภูมิใจ ในความเป็นหญิงแกร่งของเเม่ ที่กัดฟันต่อสู้กับความลำบาก ล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้งจนผ่านพ้นมาได้ และยกให้นายแม่ผู้นี้ เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต อย่าง เกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร ลูกชายคนที่ 3 ที่รับหน้าที่กรรมการบริหาร ผู้จัดการโรงงานกะทิชาวเกาะ บอกว่า เขาภูมิใจในตัวเเม่ของเขามาก

        “แม่เป็นไอดอลให้พวกเราทุกๆ คนว่า ต้องขยันทำมาค้าขาย ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า รักษาคุณภาพสินค้าให้ดีๆ เเล้วก็เป็นหลักของพวกเรามาตลอดในการทำการค้ามาตลอด”

        จรีพรบอกว่าไม่เคยคิดมาก่อน ว่าชีวิตจะมีวันนี้ เธอภูมิใจที่เห็นลูกๆ ทุกคน หันมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว แม้จะวางมือ แต่ไม่มีความกังวลใดๆ หลงเหลืออยู่ ชีวิตนับจากนี้ คือ การ “แบ่งปัน” ให้คนที่มีน้อยกว่า หรือ ด้อยโอกาสกว่า ทุกวันนี้จึงเน้นไปในทางมอบทุนการศึกษา และทำบุญมากเท่าที่ทำได้ เพราะเป็นความสุขของชีวิต

        ความสุขอีกอย่างของ นายแม่จรีพร คือ การชื่นชมผลผลิตจากแปลงผักสวนครัวเล็ก ๆ ที่ปลูกขึ้นมาเพื่อทำอาหารรับประทานเองทุกวัน เพราะเมนูโปรด คือ ผัดผัก ไม่ใส่หมู ค่ะ

        สุขกายแล้วก็ต้องสุขใจ จรีพร มักจะไหว้ขอพรจาก พระพิฆเนศวร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอาณาจักรเทพผดุงพรมะพร้าว ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

        “ปู่พิฆเนศวรเจ้าขา ฉันอยู่ได้ทุกวันนี้ ที่รวยขึ้นมา เพราะปู่ช่วยชั้นนะคะ ขอให้ชาวเกาะรุ่งเรืองตลอดไปนะคะปู่ ช่วยให้ตลอดรอดฝั่ง” นี่คือ วลีที่จรีพร มักจะอธิษฐาน ขอพรจากพระพิฆเนศวร ที่ประดิษฐานในโรงงานที่อำเภอสามพราน

        ปัจจุบันธุรกิจของเทพผดุงพรมะพร้าว แตกไลน์และขยายกิจการไปหลายแขนง เป็นมากกว่าผู้ผลิตกะทิสำเร็จรูป ที่ทำรายได้จากการส่งออกอย่างมหาศาล ความพยายาม ความอดทน และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ของนายแม่จรีพร เป็นต้นแบบ ที่ดีตลอดกาล แม้ธุรกิจจะเปลี่ยนมือไปกี่รุ่นก็ตาม

        (อ่านเพิ่มเติม : เปิดประวัติ "แม่จรีพร" เจ้าของ "กะทิชาวเกาะ" ผู้มอบ 10 ล้าน ให้พี่ตูน เธอจบแค่ป.4 แต่มีสุขได้ ด้วยการแบ่งปัน)

ชมคลิป...

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก thairath

บทความที่คุณอาจสนใจ