บทเรียนชีวิตสายเปย์ "เอ้ ชุติมา" ร่ำไห้อนาถชีวิต ฟางเส้นสุดท้ายเลิก "ฟร้อง"
LIEKR:
ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเลิกราแฟนเด็ก ชัด ๆ อีกครั้ง สำหรับ "เอ้ ชุติมา" ที่ถึงกับเสียน้ำตาอนาถชีวิต บทเรียนชีวิตสายเปย์ โอนเงินให้อดีตแฟนเด็กเก็บทุกบาท พร้อมกับเผย ฟางเส้นสุดท้ายเลิก "ฟร้อง" ยืนยันตาสว่างแล้ว ลั่นจากนี้ไม่ใช้ชีวิตคู่กับใครอีกแล้ว
ล่าสุด "เอ้" ชุติมา นัยนา ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บ Show คอนเฟิร์มตาสว่าง ปล่อยบ้าน-รถโดนยึด หลังเลิกแฟนเด็ก ลั่นไม่เคยชวนใครเล่นการพนัน ปล่อยโฮ เป็นบทเรียนชีวิต เปย์ขั้นสุด โอนเงินรายได้จากการทำงานทุกสตางค์ให้อดีตแฟนเด็กเก็บ
เลิกกันมา 8 เดือน แต่ฝ่ายชายออกมาแฉว่าเราไม่ยอมผ่อนบ้าน เอารถไปซ่อน ทำให้เขาติดแบล็กลิสต์ เพิ่งไปเจออดีตแฟนหนุ่มมาเป็นยังไงบ้าง?
เอ้ : ก็อย่างที่เห็นในรายการ เขาไม่ยอมรับอะไรเลยทั้งที่เราพูดเรื่องจริง มีหลักฐาน เขาพูดหรือปฏิเสธอะไรก็ตาม ต้องรู้แก่ใจตัวเองว่าทำอะไรออกไปห ลาย ๆ เรื่องเขาก็ย้อนแย้ง
เราก็โดนเขาด่าเยอะมาก ก็นั่งเงียบๆ ฟังไปอย่างเดียว เราไม่ใช่คนแบบนั้น เขาจะด่าก็ด่าไป อะไรที่เขาพูดไป เดี๋ยวสังคมจะเห็นเอง อย่างเรื่องการเล่นหวย ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่าเขาเป็นเจ้ามือ เราเป็นลูกสะใภ้ก็ต้องช่วยเพื่อให้เขามีรายได้เพิ่ม ไปขายของตามตลาดนัดกับแม่เขา ไป เป็น แม่ค้า หลายคนจะเห็นเราไปเป็นแม่ค้า ขายของให้แม่เขา สมัยก่อนเราก็สนิทกับแม่เขา เพราะเขาเหมือนเรา ขยัน ไม่อายทำกิน ไม่คอยวาสนา ขายของตลาดนัดกันนะคะ รายได้ที่ขายทั้งหมด คุณแม่เขาเก็บ พี่ไม่ได้แตะเลย
เรื่องมันเริ่มแย่เมื่อไหร่?
เอ้ : เริ่มแย่หลังจากที่ลูกเขามาอยู่กับเรา หลัง ๆ ลูกเขาเริ่มเที่ยว คนเราพอเที่ยวก็ติดสนุก ก็กลับบ้านช้าลงกลับบ้านเช้าขึ้น พี่จะพิมพ์ในไลน์สมัยก่อนเรียกว่าฟร้องที่รัก พอเขาเที่ยวยันหว่าง พี่ก็เขียนว่าฟร้องยันหว่าง ประชดไปเลย ที่เขาบอกว่าลูกเราชวนลูกเขาเที่ยวตั้งแต่คบแรก ๆ ก็ไม่จริงค่ะ เขาเที่ยวตั้งแต่อยู่กาญจนบุรี มีผับมีโน่นมีนี่ เด็กพีอาร์เยอะแยะไปหมด เขาบอกเอ้ว่าเที่ยวตั้งแต่อายุ16 ขนาดยังเข้าผับไม่ได้ แต่มีคนพาเขาเข้าได้ เรา เขาอายุ 20 เราถึงเพิ่งพาเขาเที่ยว เราลือกสถานที่ดีๆ ให้น้องเที่ยว
เริ่มมีพฤติกรรมเรื่องผู้หญิง ผู้หญิงมาติดเขา เขาติดโทรศัพท์ คนเป็นแฟนจะรู้ตัวเองอยู่แล้ว จอดรถอยู่ที่คอนโดนานเกินไป 45-50 นาที ไม่เข้าห้องสักที เราก็ย่องไปดู ขอดูโทรศัพท์เขา ปกติไม่เคยขอดูนะคะ แต่วันนั้นทนไม่ไหว แต่เขาก็ปฏิเสธ จนวันนึงเขาหลับ แล้วเขาลืมปิดโทรศัพท์ เราก็เปิดเจอทุกอย่างก็ปลุกเขาเลยถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
อีกประโยคที่แม่เขาพูด ลูกเขาเลิกเพราะพี่เอ้หมดตัว ไม่มีเงินแล้วไงลูกเลยต้องเลิก ?
เอ้ : เงินอยู่ที่เขาหมดค่ะ เงินพี่ทุกบาททุกสตางค์อยู่ที่ลูกชายเขาหมดค่ะ ตั้งแต่คบกันมาค่ะ หลังเลิกก็เปลี่ยนแล้วค่ะ
พี่เป็นเจ้าของเงิน แต่เขาเป็นเจ้าของชื่อบัญชี พี่ต้องขอยืมเดือนละ 50,000 คืออะไร?
เอ้ : ที่ต้องยืมทีละ 5 หมื่นเพราะเงินเราอยู่ที่ลูกชายเขา ถ้าคุณจะเอาเงิน ขาดเหลืออะไรก็ให้ลูกชายคุณโอนไปสิ แต่ลูกชายเขาไม่โอน แม่เขารู้สึกว่าเป็นเงินลูกชายเขาที่ทำงาน ไม่ใช่เงินเรา แต่ลูกชายเขาทำอาชีพอะไร เป็นดาราเล่นหนังเรื่องอะไร เล่นละครเรื่องอะไรก่อน เงินทุกบาทเป็นของเรา
ทำไมถึงเลือกให้เงินผู้ชาย?
เอ้ : น้องเขาคบกับเราเหมือนอยากมีหน้ามีตาในสังคม เราก็อยากยกระดับน้องให้ภูมิใจในตัวเองว่ามีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถทุกอย่าง เหมือนเดินกับเราแล้วไม่มีใครดูถูกเขา แต่เป็นเงินเราที่สังคมไม่รู้ค่ะ แต่เรารู้กัน แล้วพี่มีสลิปทุกอย่าง แม้แต่ค่าทางด่วนเขาก็เบิกที่เรา ค่าน้ำ-ค่าไฟทุกอย่าง คุณแม่เขารู้แต่ไม่ฟัง
ทำไมถึงรักเด็กคนนี้ขนาดนี้ ทำไมถึงยอมทุกอย่าง ?
เอ้ : เราผิดหวังเรื่องความรักมาตลอด เด็กคนนี้มาเติมเต็มตอนที่พี่รู้สึกแย่มากในชีวิต ช่วงหนึ่งคุณผิดหวังความรักหรือโหยหา หรือมันเฟล ถ้ามีคนคนหนึ่งมาเติมเต็ม เราจะรู้สึกอบอุ่น เหมือนใจมันฟู มีคนมาเติมส่วนที่หายไปได้ ซึ่งช่วงแรกเขาเติมเต็มเราได้จริง ๆ เขาเป็นเด็กน่ารักมาก เป็นเด็กดี แต่เขาหัวอ่อน และเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตกับเรานาน
เมื่อก่อนพี่เคยทำแบบนี้กับแฟนคนเก่าไหม ?
เอ้ : ไม่ค่ะ คนนี้เป็นคนแรก ที่เราเก็บเงินไว้ที่น้องเขา เพราะเขาค่อนข้างเป็นคนเก็บเงินอยู่ทุกเม็ด เงินทองไม่ค่อยกระเด็น เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้นำในชีวิต จะเก็บเงินให้เราได้ เขาเก็บเงินเก่งค่ะ
ซึ่งช่วงแรกยังโอเคอยู่ เวลารับงานก็โอนเข้าบัญชีน้องเพื่อทำสเตทเมนต์ให้น้องในการกู้บ้านกู้รถทุกอย่าง ทำทุกอย่างเพราะอยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ถึงขนาดจะหมั้นกันเลย เราเชื่อมั่นคนนี้มากว่าเขาจะนำพาชีวิตเราไปรอดไม่เอาเปรียบเรา หลายคนก็จะพูดว่าทำไมให้ขนาดนั้น ทำไมโง่ขนาดนั้น บางทีทอล์กสินค้าชื่อคนรับก็เป็นชื่อเขา ทุกบาททุกสตางค์ก็โอนให้เขา
เห็นว่าเวลาจะใช้เงินตัวเองจะมีดอกเบี้ย ?
เอ้ : เวลาจะใช้เงินตัวเองเขาไม่ให้ใช้ เราเป็นผู้หญิงบางทีต้องแต่งตัว มีค่าใช้จ่ายบ้าง บางทีเราก็ส่งที่บ้านเราด้วย ซึ่งบางทีส่งให้ที่บ้านเยอะกว่าส่งไปที่เขา เขาก็จะโกรธเรา สมมติเราส่งให้คุณแม่ พี่สาว สมมติเงินเข้ามา 2 แสน จะโอนให้ฝั่งคุณแม่ พี่สาว 1.5 แสน แล้วให้เขา 5 หมื่น ก็จะโกรธ ไม่ได้ ก็เลยต้องให้ไปคนละครึ่ง
ส่วนเรื่องดอกเบี้ย สมมติเอ้อยากใช้เงินของตัวเอง เวลาขอเขา เขาไม่ให้ เราจะทำไง สมมติเราอยากใช้เงิน 5 หมื่นตอนนี้ เราก็ไปกระซิบเพื่อนเกย์ ขออนุญาตใช้ชื่อเพื่อนสาวในการกู้ที่ฟร้อง แต่เป็นตัวเรานี่แหละ แค่ใช้ชื่อเพื่อน แล้วเห็นดอกไหมล่ะคะ มหาศาลมาก
เรื่องดอกเบี้ยใครคิด?
เอ้ : เขาคิดเองค่ะ
ไม่มีจุดไหนที่รู้สึกว่าไม่ถูกต้องเหรอ ?
เอ้ : ก็รู้สึก แต่เงินอยู่ที่เขาจะทำยังไงได้ เราก็ต้องยอม เราเสียดอกร้อยละ 10 เลยนะคะ 10-15 วันส่งที ถ้าเลตก็วันละ 5 ร้อย 1 พัน ถามว่าเพราะรักหรือเปล่าเลยปล่อยไป คือเราเอาออกมาไม่ได้ จนตอนหลังเราไม่อยากฝากเงินไว้ที่เขาแล้ว เราก็จะเตี๊ยมกับเจ้าของสินค้าว่าอย่าบอกแฟนนะว่าเราได้รายได้เท่าไหร่ในวันนี้ เราบอกแค่เท่านี้ ที่เหลือเราจะโอนให้แม่เรานะ ตอนหลังเราก็เริ่มเก็บเงินที่คุณแม่ เราก็เริ่มคิดได้
เขาไม่รู้เหรอว่าเราเป็นคนกู้ในชื่อเพื่อน ?
เอ้ : ตอนหลังเขาก็รู้ค่ะ เขาก็บอกว่าถ้าอยากใช้เงินก็ต้องจ่ายดอก ซึ่งมันเป็นเงินเรา แต่ถ้าเป็นเขาอยากซื้อของเขาเอง เขาก็ได้ทุกอย่าง ไม่ต้องบอกเรา เอาเงินของเราไปใช้ เหมือนเขาเป็นเจ้าของเงิน ตอนนั้นอึดอัดมาก แต่เรารู้ว่าถ้าเราไม่ให้เงินเขาก็ต้องไป
ตอนนั้นยอมรับว่ารักเขา เรามั่นใจ อยากใช้ชีวิตคู่กับเขา ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผิดหวังเรื่องความรักมาตลอด พอมีผู้ชายคนหนึ่งมาให้ความมั่นใจ จะหมั้นกับเรา จะแต่งงานกับเรา เป็นรถด่วนขบวนสุดท้ายของเราแล้วเข้าใจไหม เรารู้สึกว่ามีคนรักเราแล้ว มีคนอยากแต่งงานกับเราแล้ว เราก็ภูมิใจ
บ้านเป็นชื่อฟร้อง เพราะอยากให้เกียรติเขาด้วย ตอนนั้นอึดอัดไหมที่ต้องดูแลเขาขนาดนี้ ?
เอ้ : ก็อึดอัด แต่ไม่อยากให้เขาดูไม่ดี มาเดินกับเราแล้วคนจะมองว่าเขาเกาะเรา เราไม่อยากให้น้องโดนคนประณาม อยากให้เดินกับเราแล้วดูดี ดูว่าเขามีอะไร
หลัง ๆ เขาจะไปเที่ยว ไปดื่ม รูดบัตรเครดิตได้เลย ?
เอ้ : หลัง ๆ ที่โกรธอีกอย่าง เราทำสเตตเมนต์เขาสวยมาก สามารถทำบัตรเครดิตอันลิมิตได้ เขาไปทำที่แบงก์ เรารู้เพราะกลับมาเขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาไปทำบัตรเครดิตแล้วนะ ตอนหลังเขารูดบัตรเครดิตหนักมาก 4 หมื่น 5 หมื่น 6 หมื่นกว่า เราก็ถามเขาว่ารูดอะไรหนักขนาดนั้น เขาต้องมาหักเงินจากเรา ดังนั้นเราจะรู้ทันทีว่ายอดเขาใช้เท่าไหร่ เขาบอกเอาไปจ่ายค่าของกินของใช้ในบ้าน ซึ่งให้ตายเถอะของกินของใช้ในบ้านเอ้กินแต่มาม่า กินแต่ข้าวธรรมดาริมถนนทั้งนั้น มารู้ตอนหลังว่าเป็นร้านพีอาร์อยู่แถวราชพฤกษ์ เขาไปติดสาวที่นั่น มิน่าล่ะใช้จ่ายเยอะมาก เราไปสืบ เพื่อนทุกคนก็เสิร์ชให้หมดว่าร้านนั้นเป็นร้านพีอาร์ เป็นเลานจ์
หมดเครดิตไม่สามารถทำเรื่องกู้ได้?
เอ้ : ไม่ได้หมดเครดิตนะคะ แต่พี่เป็นคนที่ไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเองเลย ไม่ว่าจะบ้านหรือรถให้เป็นชื่อเขา เพราะฟร้องอายุน้อยกว่า การที่เด็กอายุน้อยกว่า จะกู้ได้ระยะยาวกว่า ผ่อนถูกลง เป็นการที่เราจะใช้ชีวิตด้วยกันนาน ๆ ทุกอย่างก็อยากให้เขามีเครดิตดีด้วย เขาเป็นคนพูดเองว่าอยากมีรถ มีบ้าน เป็นของตัวเอง เขาเป็นคนเลือกดูบ้านเอง และมารับพี่ไปดูเองนะคะ ตอนหลังเราโยกเงินไปอยู่สเตทเมนต์ของเขาหมดแล้วไงคะ สเตทเมนต์เราเลยไม่สวยงามแล้ว เขาดีดนิ้วนิดเดียว กู้บ้าน 4-5 ล้านได้ กู้รถขนาดนั้นได้ สเตทเมนต์ต้องสวยมากค่ะ
ตลอดทั้งชีวิต เงินพี่ไม่อยู่กับพี่เลยเหรอ?
เอ้ : มีอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ ไม่เลือกเก็บไว้ที่ตัวเองเพราะพี่เป็นคนสปอร์ต เวลาแฟนเดือดร้อน อย่างบ้านเขาติดแอร์ ติดผ้าม่าน เราก็โอนหมดค่ะ เราเลยรู้สึกว่าเงินอย่าอยู่ที่เราเลย เวลาใครเป็นอะไรเราก็โอนหมดจริง ๆ
ขนาดพ่อแม่เขาย้ายแอร์ พี่ก็จ่ายให้ ?
เอ้ : พี่ก็เป็นสะใภ้เขาเนอะ ต้องช่วยเหลือกัน อะไรที่อำนวยความสะดวกให้เขาได้เราก็ทำ เพราะเราคิดว่าเราเอาลูกเขามาอยู่กับเรา เราก็อยากช่วยทุกอย่างที่เราช่วยได้ ทั้งแอร์ ทั้งผ้าม่าน ทุกอย่าง รถยนต์ที่บ้านเขา เนื่องจากน้องเขาไปเล่นบาคาร่าในเว็บ เขาก็ไปยืมเงินเพื่อนเรา ทั้งหมดยอดสูงมาก ภายในวันเดียวยอดเราหายไปเลย
ถึง 5 แสนไหม ?
เอ้ : เกือบล้านค่ะ (หัวเราะ) เราก็เลยทำยังไงได้ เขาเลยเอารถที่บ้านเขาเข้า เราก็ต้องช่วยจ่าย โดยที่เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เราช่วยจ่ายทุกเดือน เดือนละ 1.6 หมื่นค่ะ เราก็ต้องทำ เพราะเราเอาลูกเขามา เราต้องดูแล
ทุกครั้งที่มีข่าวว่าลูกเขามีผู้หญิงคนอื่น พี่เอ้บอกว่ามีการไปเคลียร์กัน ครอบครัวแม่เขาพูดอะไรกับพี่เอ้บ้าง ?
เอ้ : เขาก็รู้ค่ะ เขาพูดว่าผู้ชายก็นิสัยแบบนี้แหละ ก็จัดการกันเอาเอง เขาจะไม่ขึ้นเสียงเรื่องนี้ แต่จะขึ้นเสียงเรื่องเงินไม่พอใช้ เหมือนเราดูแลลูกเขาไม่ดี เงินในบัญชีที่เป็นเงินเรา แต่เขาไม่เชื่อหรอกค่ะ เขาคิดว่าเงินลูกชายเขา ซึ่งเอาจริง ๆ เขาไม่ได้มีละคร มีหนัง เราเป็นเหมือนผู้จัดฯ เราก็จะบอกว่าตัวเอง เราอยากให้น้องมีอาชีพ มีรายได้ เอาน้องเราเล่นเป็นตัวอะไรก็ได้สักตัวได้ไหม ช่วยน้องหน่อย ให้น้องมีชื่อเสียง มีรายได้
พี่เอ้ทำงานหนักมาก ได้เงินมาก็ไม่ได้ใช้ กว่าจะได้ใช้ก็เสียดอกเบี้ย แม่เขายังมาบอกว่าเลี้ยงดูลูกเขาไม่ดีอีก จุกมากมั้ย?
เอ้ : จุกมาก เราพูดอะไรไปก็โดนเขาด่าตลอด เราไม่เคยเถียงเขาอยู่แล้ว ตั้งแต่คบกันมา 6 ปี ไม่เคยเถียงแม่เขาเลยสักครั้งเดียว เพิ่งเถียงเขาวันนั้น มันโดนกดดันสุดๆ แล้ว เขาให้เราออกจากบ้านเดี๋ยวนั้น ลูกเขาถ่ายให้แม่เขาดูว่าเราเอาเฟอร์นิเจอร์ออก แล้วแม่เขาด่าเราเป็นชุดเลย วันนั้นเป็นวันที่เราหลุดจริงๆ เราไม่ไหวแล้ว มีบางคำที่เราพูดไม่เพราะกับแม่เขา เราตวาด ซึ่งปกติไม่เคยเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราเถียงแม่เขา
ท้อกับชีวิตตัวเองมั้ยที่ต้องมาเจอแบบนี้อีกแล้ว?
เอ้ : ท้อค่ะ (ถอนใจ) แต่เราก็โทษเขาฝ่ายเดียวไม่ได้ เราเป็นคนเลือกเอง เราก็ต้องยอมรับตรงนี้ แต่ตอนที่เราเลือกไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีใครรู้อนาคตตัวเองว่าคนที่เราคบ เขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ดี ถ้าเรารู้เราคงไม่คบเขาแล้วหรอกค่ะ แต่นี่ปล่อยเวลามา 6 ปี พี่เอ้ถือมาก เวลามีแฟนแล้ว อยู่กับแฟนแล้ว จะอยู่คนเดียวจริงๆ ต่อให้ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คิดว่าความดีของเราจะชนะใจเขาได้ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็พยายามเอาความดีของเราสู้ตลอด
เวลามองตามองหน้าเขา ภาพเก่าๆ กลับมามั้ย?
เอ้ : ตอนที่เจอเขาในรายการ ก็รู้สึกค่ะ คุณแม่เขาไม่เข้าใจอะไรในชีวิตเรา เราสองคนอยู่ด้วยกันมา 6 ปีกว่า 24 ชม. ไปมาอยู่ด้วยกันทุกที่ ไปต่างจังหวัดด้วยกัน ความดีฟร้องก็มีนะคะ ไม่ใช่ไม่มี ฟร้องเป็นเด็กหัวอ่อน เป็นเด็กที่ดี แต่เขาอาจจะมีอะไรที่เป็นข้างหลังของเขาทำให้เขาเปลี่ยนไป แล้วที่ไม่ชอบคือเวลาออกรายการอยากให้ฟร้องเป็นคนตรง ๆ อย่าโกหกประชาชน
อย่างเรื่องเที่ยวกลางคืนของเขา เอาจริงๆ เพื่อนดาราก็เคยเที่ยวกับเขา มะตูมก็รู้เรื่อง เขาจะไม่กลับ อยู่ยันหว่างตลอด เราก็ต้องไปนั่งรอเขา บางทีเราเป็นดาราระดับนี้ ต้องเอาเก้าอี้ในร้านคาราโอเกะต่อกัน 4-5 ตัว นอนรอเขาร้องเพลง บางทีไปนอนรอในรถ ไปนอนรอในปั๊มน้ำมัน เธอ ชีวิตฉัน 9 โมงแดดส่องฟ้า ชุติมาเดินไปล้างหน้าในปั๊มน้ำมัน เพราะแฟนยังน็อกหลับ เนื่องจากเราขับรถไม่เป็น จนมีแฟนคลับทักว่าคุณชุติมา ทำไมตื่นเช้าเราก็พูดไม่ได้ว่าเรานอนที่ปั๊มน้ำมัน
ทำไมไม่อยู่บ้าน ทำไมยอมรอ ?
เอ้ : หลัง ๆ เขากลับบ้านผิดเวลาบ่อย ๆ ก็เลยคิดว่าเราไปดูแลเขาดีกว่า เผื่อเวลาเขาขับรถไม่มีสติ อย่างน้อยก็ยังมีเราคอยเตือนเขา เราไปเป็นเพื่อนเขา พอวันที่เขาบอกว่าเขาขับไม่ไหวจริง ๆ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ก็จอดปั๊มซะเลย ยังดีกว่าจอดริมถนน เราจะกีดขวางการจราจร ก็ไปขออนุญาตเด็กปั๊มจอด เปิดกระจกนิดหนึ่ง กลัวตายเหมือนกัน
อะไรทำให้รู้สึกว่ายอมผู้ชายคนนี้ขนาดนี้ ?
เอ้ : ช่วง 4 ปีแรกเขาเป็นเด็กน่ารักที่สุดค่ะ ปี 5 ปี 6 ที่เขาเปลี่ยนไป ตอนแรกคิดว่าความดีน่าจะชนะใจเขาได้ แต่กลับไม่ชนะใจ เขากลับหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มเจ้าชู้ เริ่มกินเหล้า ใช้ชีวิตโดยไม่แคร์เราเลยสักอย่าง เรารู้สึกแย่แล้วเลยขอไปดีกว่า เลิกกับเขา พี่เป็นคนขอเลิกเองนะ ไม่ใช่เขาขอเลิกเรา พี่ออกจากบ้านกับลูกบุญธรรม หิ้วกระเป๋าไป 1 ใบ ลากออกไป บอกว่าไปแล้วนะ เขาก็ไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาบอกว่าจะไป 10 รอบแล้ว แต่ไปไม่ได้ ให้อภัยเขาตลอด สิ่งเดียวที่ทำให้เลิกกับเขาได้คือออกจากบ้านหลังนี้และไม่เจอเขาอีกเลยค่ะถึงเลิกได้ พี่จะเป็นคนแบบนี้
อะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้รู้สึกว่าฉันไปแล้วนะ ?
เอ้ : วันนั้นเขากลับบ้าน 9 โมงเช้า พี่นั่งรออยู่หน้าบ้าน มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ แดดส่องแล้วก็คิดว่าฉันทำอะไรอยู่วะ นั่งให้แดดเผาตัวให้สุด ๆ (ร้องไห้) นั่งอยู่หน้าบ้านให้แดดมันเผา แล้วถามตัวเองว่าทำอะไรอยู่วะชุติมา (ร้องไห้) มันไม่ไหวจริง ๆ ก็คิดว่าควรไปได้แล้ว ควรที่จะเดินออกไปสักที (ปิดหน้าร้องไห้) จริง ๆ ไม่อยากร้องไห้ให้ดราม่าให้ทัวร์ลง ไม่ได้อยากร้องไห้นะคะ มันเห็นภาพวันสุดท้ายที่เราเลิก เราไม่ไหวจริง ๆ เราสุด ๆ แล้วจริง ๆ
ถามว่าน้องดีไหม น้องดีมากในช่วงแรก ๆ จากกันด้วยดีนะคะ ยังมีคำพูดให้กันเลย 3 เดือนแรก ยังไลน์หากัน วิดีโอคอลหากัน ยังร้องไห้ เรายังรักกันอยู่ รักมากด้วยค่ะ รักจากใจ แต่พอเขาเริ่มไปทำงานกลางคืน เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีคนซัพพอร์ต จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาบล็อกเอ้ทุกทาง บล็อกเฟซ ไอจี TikTok ไลน์ก็บล็อก เขาก็อยากมีชีวิตของเขา ต่างคนก็ต่างบล็อก เราก็อยากมีชีวิตของเรา
เราจะบอกน้องในแชตว่าขอให้น้องเจอคนดี ๆ ให้รักเขาเหมือนที่เรารัก ขอให้มีชีวิตดี ๆ เรียนหนังสือให้จบ และเตือนเขาว่าคนเราถึงหน้าตาหล่อแต่การศึกษาน้อยจะใช้ชีวิตยาก ความหล่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตนะ จะมีช่วงเราแย่ โทรม แก่ แต่ความรู้จะอยู่กับเราตลอดชีวิต ที่เราส่งเขาเรียนตลอดเพราะเราอยากให้เขามีความรู้ ต้องหล่อและฉลาดด้วย จะทำให้เขาไปข้างหน้าได้เยอะ แล้วเรื่องคนใหม่ซัพพอร์ตเรื่องแบรนด์เนม เราก็บอกเขาว่าของแบบนี้แค่ฉาบฉวย วันหนึ่งเราจากไปแล้วก็เอาลงโลงไปไม่ได้ เก็บเงินไว้ดีกว่า ไม่ต้องฟุ้งเฟ้อ ตอนเขามีคนดูแลใหม่เราเคยเตือนเขา
ที่บอกว่าเราแกล้งเอารถไปซ่อน ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ?
เอ้ : ไม่ได้แกล้งอะไรเลยค่ะ เพราะเราดาวน์เองและผ่อนให้ ดูแลทุกอย่าง ไม่รู้จะแกล้งไปทำไม ไม่ได้มีผลดีกับเรา เพียงแต่คุณไม่ให้โอกาสเราเอง บ้านคุณไม่ให้โอกาสเราเลยในการที่เราจะมูฟออกไป ไล่เราออกจากบ้าน หาว่าเรายักยอกทรัพย์ หาว่าเราเอารถไปจำนำ แยกชิ้นส่วนรถ ทุกอย่างไม่เคยให้โอกาสผู้หญิงคนนี้เลยสักครั้งเดียว ไม่เคยให้โอกาสในการที่เราจะมูฟหรือตั้งตัวใหม่ คุณมีแต่กดดัน ข่มขู่เราตลอดเวลา ดิสเครดิตเราทุกอย่าง
เงินอยู่ที่เขาหมด แล้วหลัง ๆ เราเอาเงินส่วนไหนใช้ ?
เอ้ : เราเก็บไว้ที่คุณแม่ และที่ไลฟ์ขายของ รายได้สูงมาก สปอนเซอร์จ้างเอ้ไลฟ์ขายของ สมมติเดือนนึง 10 ครั้ง เป็นเงินเท่าไหร่ แล้วได้เปอร์เซ็นต์จากการไลฟ์ขายของอีก สินค้าตัวหนึ่งได้ 10-30 เปอร์เซ็นต์ ก็แล้วแต่เขา วันหนึ่งก็ขายของได้วันละเป็นแสนเลยนะคะ
เรื่องนี้สอนอะไร ?
เอ้ : ต่อไปนี้จะรักตัวเองให้เยอะ ไม่เอาเงินไว้ที่ใครแล้ว จะไม่เป็นสายเปย์แล้ว พอแล้วค่ะ คนจีบตอนนี้มีทั้งผู้ชาย ต่างชาติและทอม ทอมจีบเยอะมาก แต่ตอนนี้ขอเป็นเพื่อนดีกว่า
ถ้าเขาดูอยู่ อยากบอกอะไร ?
เอ้ : อยากบอกว่าจริง ๆ ไม่อยากเป็นประเด็นเรื่องนี้เลย เอ้อยากจบตั้งนานแล้ว 9 เดือน ไม่เคยพูดเรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องเขาเล่นบาคาร่า ไม่เคยพูดเลยค่ะ เก็บไว้ในใจคนเดียวตลอด อยากให้จบแบบไม่มีปัญหาอะไร เพราะยิ่งพูดไปก็เหมือนสาวไส้ให้กากิน คนเขาก็มองว่าเป็นเรื่องของคนสองคน มาสาดโคลนใส่กัน เราไม่อยากให้เกิดกรณีนี้ แต่ฟร้องเป็นคนเริ่ม จุดประเด็นเรื่องนี้เอง โดยไปขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด เลยทำให้เป็นปัญหาเรื้อรังมาก แล้วคุณทนายรัชพล ที่โพสต์ว่าเราจะเจอยาแรง ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้เป็นทนายแล้ว ก็เลยทำให้เกิดกระแสดราม่าขึ้นมา เราก็ต้องออกมาชี้แจง ขอความเป็นธรรมของเราคืน อย่าฟังความข้างเดียว จริง ๆ เราไม่ได้ประจานอะไรน้องเลย เราเอาความจริงมาพูดให้ทุกคนฟัง
แล้วก็อยากบอกที่บ้านเขาว่า ชื่อเสียงคนเรา อย่างเอ้เป็นอดีตนางสาวไทย เล่นละครกำลังจะเปิดกล้องอีก 3 เรื่อง เอ้เป็นนักร้อง คอนเสิร์ตเพิ่งจบไป ดังนั้นมูลค่าในตัวเราสูงมาก เราไม่ได้สร้างชื่อเสียงภายในวันเดียว กว่าที่เราจะเติบโต อยู่วงการให้คนยอมรับได้ขนาดนี้ อยู่ในวงการมา 40 ปี การดิสเครดิตคนมีชื่อเสียงก็ลองคิดเป็นการบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการที่คุณด่าเอ้ออกสื่อ หมิ่นประมาทซึ่งหน้าทุกอย่าง คุณต้องคิดได้ค่ะ เพราะสามีคุณเป็นตำรวจ ถ้าเอ้ไม่ผิดเอ้ไม่ยอม ก็ฝากไว้แค่นี้ ขอให้คุณมีความสุข หลังจากนี้อาจออกอีก 1 รายการ แล้วจะไม่พูดถึงคุณแล้วนะคะ ก็จบไปซะเรื่องราวของเรา แล้วก็เราอาจได้เจอกันอีกนะคะ
ที่มา : คุยแซ่บShow