คนที่มีโอกาสได้ดูแลแม่ อย่าคิดว่าคือ "ภาระ" ถือว่าเป็นคนมีบุญที่สุดแล้ว
LIEKR:
ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ภาษาอะไร ศาสนาไหน จะร่ำรวยหรือยากจน คำว่า “แม่” เป็นคำแรกที่ลูกทุกคนเปล่งออกมายามที่เริ่มหัดพูด ทุกคนบนโลกใบนี้เกิดมาย่อมมีผู้ “แม่” คำสั้นๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่มหาศาล เป็นคำที่ประเสริฐด้วยพระคุณอย่างล้นเหลือ และคงไม่มีคำใดในโลกนี้ที่มีความหมายในตัวมันเองมากมายจนเกินคำบรรยาย เท่าคำว่า “แม่”
พระคุณแม่ยากแท้จะทดแทน วันนี้เราจึงมีพระคุณแม่ 10 ประการ ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์จนเติบใหญ่ เพื่อเตือนสติให้หลายๆ คนได้หันกลับมารักพ่อแม่ และดูแลท่านให้ดีเหมือนกับที่ท่านได้ดูแลเราตลอดมา...
ประการที่ 1
12 เดือนที่แม่คอยปกปักรักษาขณะอยู่ในครรภ์ แม่ต้องทนแบกทุ่นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่ลดลา
แม้มันจะหนักหน่วงปานภูเขา แต่ไม่เคยถ่วงความรัก
ยามที่ลูกเคลื่อนไหวภายในแม่เข้าใจเหมือนเป็นสัญญาณตอบ แต่ก็อดกังวลไม่ได้
จะเดินนั่งนอนก็ไม่สบายเหมือนแต่ก่อน เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกอยู่เต็มอก
ประการที่ 2
กว่าลูกน้อยจะได้ออกมาดูโลก แม่ ต้องทนจ็บปวดทุกข์ทรมานมหาศาล
แต่ความปีติยินดีและความสุขเข้าแทนที่ จนลืมความเจ็บปวดไปเมื่อลูกน้อย อยู่ในอ้อมกอด
เมื่อลูกหิวนมก็ให้ดื่มน้ำนมจากอก เมื่อลูกเจ็บป่วยก็รีบเช็ดตัว พาไปพบหมอ
ขอแค่ลูกน้อยได้หายเจ็บ ได้อิ่มท้อง เพียงเท่านี้แม่ก็ยิ้มออก
ประการที่ 3
ยามเมื่ออายุลูกเข้าวัยเรียน ก็ส่งเสียให้ร่ำเรียนหนังสือหาความรู้ใส่ตัว
ต่อให้ลำบากตรากตรำสักเพียงใด ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ไม่ด้อยไปกว่าคนอื่นๆ
คอยสอนวิชาชีวิต ประคองให้ก้าวเดินไปอย่างมั่นคง พร้อมกับเฝ้ามองอยู่ไม่เคยห่าง
ประการที่ 4
แม่นั้นเปรียบประดุจ มหาปฐพี ส่วนพ่อนั้นเล่าก็เหมือนแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่
เหนือสิ่งอื่นใด พ่อแม่นั่นมอบความรักให้ทั้งหมดที่มีให้กับลูกยิ่งไปกว่ารักชีวิตตน โดยไม่มีความรังเกียจแม้แต่น้อย
คนอื่นอาจจะมองลูกของแม่ไม่สวยไม่หล่อ แต่ในดวงใจของแม่ไม่เห็นใครสวยและหล่อไปกว่าลูก
หรือแม้กระทั่งลูกที่เกิดมามีร่างการไม่สมประกอบ แม่ไม่เคยแสดงความชิงชังรังเกียจแม้แต่น้อย เพราะลูกไม่เคยพิการในหัวใจแม่
ประการที่ 5
คอยเฝ้าเพียรทำเพื่อลูกจนแทบลืมดูแลตัวเอง
เพราะรักลูกยิ่งกว่าแม่ยอมแลกมาเพื่อลูกได้ ตัดทิ้งรูปลักษณ์ไม่แย่แสต่อความงามเหมือนใครๆ เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่
ตรากตรำงานหนักจนลืมเหลียวแลเอาใจใส่ตนเอง
ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตของลูก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูก
ประการที่ 6
เมื่อลูกต้องออกจากบ้าน สู่แดนแสนไกล แม่ปวดร้าวหนักหนา
คอยคิดถึงห่วงหายามจากไกล เช้าค่ำเพียรเอาแต่คิดถึงหน้าลูก
ได้แต่หวังวิงวอนขอพรสิ่งศักดิ์คุ้มครองให้ลูกได้ปลอดภัย
ประการที่ 7
ไม่ว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว แม่ทุกคนก็มีความรักให้ได้ไม่แพ้กัน
กระทั่งถึงวัยออกเรือน แต่งงาน มีคู่ครอง ก็ยังไม่วายคอยเป็นห่วงลูก
แม้ลูกนั้นลำบากเพียงเล็กน้อย แต่แม่นั้นทุกข์แทนลูกเสียมากมาย
ประการที่ 8
แม้ลูกจะเติบใหญ่ออกเรือน แต่แม่ก็ยังคงสวดมนต์ภาวนาขอให้ลูกโชคดีพ้นเคราะห์พ้นภัย
เป็นห่วงสุขภาพเจ็บไข้ไม่สบาย ก็รีบหายาไปให้รักษา
พระคุณอันยิ่งใหญ่ที่แม่มอบให้แก่ลูก คือความรัก ความเมตตาจนล้นทรวง
ประการที่ 9
ความรักความเมตตาของมารดา เสมือนดั่งดวงตะวันจันทราที่สาดส่องบนผืนพสุธา ชั่วนาตาปีโดยไม่คิดหวังค่าตอบแทนแต่อย่างใด
เป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ หาเปรียบมิได้เลย เพราะความรักความผูกพันอันลึกซึ้งที่แม่ให้แก่ลูกไม่มีวันจืดจางตราบชีพมลาย
อันรักใดๆ ในใต้หล้าว่าเที่ยงแท้ แต่รักแม่ที่มีให้ไม่เป็นอื่น คือความรักอันยิ่งยืนชั่วนิรันดร ต้นปลายนั้นเสมอกันไม่เอนเอียง
ประการที่ 10
จนกระทั่งบัดนี้แม่นั้นแก่เฒ่าชราลงไปมาก
แม้อายุอานามเกือบร้อยปี หัวขาวโพลน ตาฝ้าฟาง มือแห้งเหี่ยว
แต่ความรักที่มีให้แก่ลูกก็ยังไม่เสื่อมคลายไปจากใจ ยังเอ็นดู ยังรักใคร่ไม่แปรเปลี่ยน
หากถามว่าความรักที่มีให้ลูกนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ คงจะตอบได้แต่เมื่อต้องถูกพรากให้จากกัน
พระคุณแม่นั้นยิ่งใหญ่มากเหลือล้นกว่าที่จะพรรณนาได้หมด แม้แต่พระพุทธองค์ยังกล่าวว่า การทดแทนบุญคุณแม่นั้นมิใช่เรื่องง่ายเลย
ดังนั้นจงรัก เคารพ และดูแลท่านให้ดี
จะได้ไม่มานั่งเศร้าเสียใจยามที่ท่านต้องหลับตาไปตลอดกาล...
ที่มา : readthis