อดีตนักแสดงค่าตัว 6 แสนบาท "รองเท้าคู่หนึ่งใส่ 10 ปี" เผยชีวิตต้องขยันสร้างคุณค่าให้ตนเอง

LIEKR:

แม้รวยแต่ก็ไม่เคยอวดตนเอง ทำทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุด

    สื่อต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของ จางเฟย วัย 67 ปี นักร้องอาวุโสของไต้หวัน ทำงานวงการบันเทิงมานานกว่า 40 ปี บุคลิกส่วนตัวที่โดดเด่นที่หลายคนจดจำขึ้นใจก็คือ เขาชอบทำท่าทางแปลกๆ จนได้รับรางวัลราชาแห่งการโชว์ในปี 1980 

    รายการต่างๆ ที่เขาเป็นพิธีกรก็ได้รับรางวัลมากมาย อีกทั้งยังมียอดผู้ชมที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ได้รับรางวัลรายการยอดเยี่ยมแห่งปี จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนเขาประกาศลาวงการบันเทิง ทำให้แฟนคลับหลายคนใจหาย แต่เขาบอกว่าเข้าใจความรู้สึกดี แต่คนเราย่อมมีวันที่ต้องพักผ่อน ช่วงนี้ก็มีแฟนคลับจำนวนมากอยากรู้ชีวิตหลังปลดเกษียณของจางเฟย อดีตราชาแห่งวงการบันเทิงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

    ล่าสุดสะใภ้คนที่สองของจางเฟยได้ไปออกรายการหนึ่งได้พูดถึงสามีของตนเอง หรือลูกชายของจางเฟยว่า “สามีค่อนข้างเลือกบทที่จะแสดงมาก ทำให้ปีนี้มีงานถ่ายละครเพียงเลือกเดียวเท่านั้น ทว่าลูกสาวคนโตเรียนโรงเรียนเอกชนค่าเทอมค่อนข้างแพง ตนเองต้องดูแลลูกคนเล็ก ค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 50,000 บาท แต่ครอบครัว 4 คนก็สามารถผ่านไปได้”

    ตนเองไม่เคยต่อว่าสามี เพราะปกติเขาก็ช่วยเลี้ยงลูกคนเล็กอยู่แล้ว บางครั้งยังซื้อของขวัญให้ตนเองด้วย ของขวัญที่ประทับใจที่สุดก็คือ รองเท้า เพราะเธอชอบรองเท้ามาก จนพ่อสามีจางเฟยทนไม่ไหวติพวกเขาทั้งสองคน

    เมื่อพูดถึงพ่อสามีเธอก็บอกว่า แม้เขาจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียงและค่าตัวแพง เมื่อก่อนอัดรายการ 1 ตอนก็ได้ค่าตัวสูงถึง 600,000 บาท แต่เบื้องหลังเขาเป็นคนประหยัดมาก ของใช้ทุกอย่างจะใช้จนคุ้มค่าถึงจะเปลี่ยนใหม่ เหมือนเช่น รองเท้าที่ใส่มานานกว่า 10 ปี ใส่จนรองเท้าอ้าปากก็ไปเอากาวมาติดแล้วใส่อีก เพราะพ่อสามีเคยบอกว่า ของทุกอย่างมีค่า ควรใช้ให้รู้คุณค่ามากที่สุด หากเรามองไม่มีค่ามันก็จะเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า แต่ถ้าเรามองว่ามันมีค่า มันก็จะมีค่ามาก 

    สะใภ้คนนี้ยังบอกอีกว่า ถ้าพ่อสามีจะมาเยี่ยมที่บ้านเธอจะรีบเก็บรองเท้าให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้โดนดุ

    ในความเป็นจริงแล้ว จางเฟยเคยบอก “คนเราว่างงานได้ แต่อย่าหยุดที่จะหาอะไรทำ คนเราต้องค้นหาจุดแห่งพึงพอใจในชีวิตให้ได้”  

    ดังนั้นหลังปลดเกษียณสถานที่ที่เขามักไปเป็นประจำก็คือสวนสาธารณะ เพลิดเพลินไปกับเครื่องบินบังคับเพื่อทดสอบความเร็วสิ่งที่เขาชอบมาก นี่เป็นความฝันในวัยเด็กของเขา ซึ่งหลังปลดเกษียณเขาก็มีเวลาในการทำสิ่งที่เขารักมากขึ้น

    เขาเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยน เข้ากับคนได้ง่ายดังนั้นเขาจึงมักพูดคุยกับเจ้าของร้านขายไส้กรอกเป็นประจำ ไม่เพียงเท่านี้ยามประจำตึกที่เขาอาศัยก็กลายเป็นเพื่อนพูดคุยกันเป็นประจำ ดูแล้วเขาจะหาจุดพึงพอใจ จุดอิ่มตัวของชีวิตพบแล้ว ชีวิตไม่มีอะไรมากมาย แค่หาสิ่งที่ตนเองพอใจและอิ่มใจมากที่สุดก็พอแล้ว

.

.

    จางเฟยยังบอกอีกว่า ทัศนคติในการใช้เงินของเขาคือ "หามาได้เท่าไหร่ไม่ได้แปลว่าต้องใช้ให้หมด"

.

ที่มา : itishealthtime | เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ