เปิดเรื่องสั้นสะท้อนสังคม เตือนใจ "อย่าลืมคนที่เขาให้โอกาส" ในวันที่เราไม่มีอะไรเลย ! (คลิป)

LIEKR:

เปิดเรื่องสั้นสะท้อนสังคม เตือนใจ "อย่าลืมคนที่เขาให้โอกาส" ในวันที่เราไม่มีอะไรเลย ! (คลิป)

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

   บอกได้เลยว่า ใครหลายๆคนที่ได้ดูคลิปนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่า เป็นคลิปที่เตือนใจได้ดีเลยทีเดียว เชื่อว่าหลายๆ กว่าจะประสบความสำเร็จมาได้ ก็เริ่มต้นจากศูนย์ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น ต้องอย่าลืมคนที่เขามีบุญคุณแก่เรา

    ซึ่งทางเพจ ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์ ได้โพสต์คลิปที่เกี่ยวกับ เพื่อนรักคู่หนึ่งที่ช่วยเหลือกันมาตลอดจยอีกคนลืมตัว จนลืมบุญคุณที่เพื่อนช่วยเหลือมาโดยตลอด

 โดยเรื่องมีอยู่ว่า จู ที่มีชีวิตลำบากต้องหาเงินเพื่อรักษาแม่ และตัวเองก็ยังไม่มีงานทำ ซึ่งไปขอให้เพื่อนสนิทช่วย ซึ่งเพื่อนสนิทนิสัยดี และยังมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

    หลังจากที่จูได้ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสาว จากนั้นเพื่อนสาวได้นำเงินให้จู เพื่อไปรักษาแม่ แถมยังยื่นขอเสนอดีๆให้ กับ จู ด้วย โดยบอกกับจู ให้มาทำงานบริษัทด้วยกัน และจะให้พนักงานสอนงานให้เอง

    ซึ่งจูดีใจมาก ที่เพื่อนสนิท ให้ทั้งเงินช่วยเหลือ และยังให้งานทำอีกด้วย จนวันนึง จูได้ทำงานมานาน 3 ปี แต่แล้วเธอกลับลืมตัว เพราะเธอได้ตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนก จูเริ่ม ไม่สนใจงาน ไม่สนใจลูกน้อง เอาแต่ใจตัวเอง แม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของบริษัท จูก็ไม่สนใจ

    จูติดโทรศัพท์ ทำงานได้ไม่โอเคเท่าเมื่อก่อน มีเอกสารอะไรมาก็ไม่สนใจ ซึ่งทำตัวตรงข้ามกับเลขาของตัวเอง ซึ่งเป็นคนขยัน แถมยังทำงานให้หัวหน้าแทนจูได้ ทำงานล่วงเวลาได้ตลอด จนเพื่อนสนิทได้เห็นถึงความขยันของลูกน้องมากกว่าจู

เธอจึงปรับเงินเดือนให้เลขาของจู ซึ่งมากกว่าเงินเดือนที่จูได้ จนเธอไม่พอใจ และได้โวยวายแบบไม่มีเหตุผล
    จู : นี่มันหมายความว่าไง เห็นคนอื่นเขาดีกว่าแล้วใช่ไหม ทำงานมาตั้งนานเงินเดือนกลับไม่ขึ้น 
    เพื่อนสาว : อยากรู้ใช่มั้ย ตลอดที่ผ่านมาเธอไม่ทำงาน ขี้เกียจ ไม่ตรงเวลา ไม่มีความเสียสละให้กับงาน

    ลูกน้องเอาเอกสารให้จูตรวจ ก่อนเข้าประชุม แต่เธอกลับตะคอกกลับใส่ลูกน้องว่า เห็นไหมว่ายังไม่ว่าง ทั้งๆที่จูก็ว่างแต่เอาไปเล่นแต่โทรศัพท์ แถมจะโต้กลับมาอีกว่า ถ้าว่างมาก ก็เอาไปเซนต์เองเลยสิ

    ต่อมาเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของบริษัท ก็วานให้จูช่วยเหลือ ตอนค่ำต้องมีไปพบลูกค้า ให้ไปด้วยกัน แต่จูกลับปฏิเสธไปว่าไม่ว่าง อ้างว่างานยังมีอีกเยอะ แถมยังให้คนอื่นไปแทน

    จากนั้นเพื่อนสนิทก็ให้ลูกน้องของจูไปแทน อีกทั้งมีเอกสารด่วนที่ต้องใช้ เพื่อนสนิทให้จูทำ แต่จูกลับไม่ทำ อ้างบอกว่าใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ไว้วันอื่นละกัน

    จากนั้นเธอก็นัดโทรกินข้าวกับแฟน ซึ่งการกระทำจู ไม่เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าเลยด้วยซ้ำเพราะการกระทำไม่เป็นแบบอย่างแก่ลูกน้อง แต่ด้วยความเป็นเพื่อน เพื่อนสนิทก็ยังใจดีให้จูทำงานที่บริษัทต่อ ไม่ดุด่า เลยด้วยซ้ำ แต่มีแต่จูที่ลืมตัวเอง

    โดยเพื่อนสนิทบอกว่า เราเห็นเธอเป็นเพื่อนมาตลอด แล้วเธอละที่ผ่านมา เห็นบริษัทเพื่อนคนนี้เป็นอะไร เคยใส่ใจกับการทำงานที่นี่บ้างไหมจู

    แทนที่จูจะสำนึก กลับโต้สวนเพื่อนมาว่า…เออ..อยากจะทำอะไรก็เชิญ ไม่อยากอยู่บริษัทของเธออยู่ละ…ขอลาออก

เพื่อนสนิทก็ตกใจทำไมเพื่อนตัวเองถึงทำพฤติกรรมแบบนั้น และได้เตือนเธอไปว่า ถ้าตัดสินใจที่จะไป….ก็เข้าใจ
แต่ควรจะกลับไปเยียมแม่บ้าง ไม่ได้บ้านมา 2 ปีแล้วน่ะ ซึ่งเธอก็เตือนด้วยความหวังดี
แต่จูก็ด่ากลับมาอีกว่า ไม่ต้องมายุ่ง เอาเวลาของเธอไปดูแลลูกน้องสุดที่รัก จะดีกว่าไหม

    จากนั้นแม่ได้โทรหาจู ซึ่งอยากให้จูกลับบ้าน แต่จูไมอยากกลับ จึงบอกแม่ไปว่า อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และได้พูดใส่ความของเพื่อนสนิทว่าไม่ดีเหมือนเดิม จนลืมมองตัวเอง

    และแม่ก็ได้บอกให้จูกลับบ้าน เพราะแม่มีทุนให้ 2 แสน จูดีใจมาก และรีบกลับบ้าน และรีบถามหางเินจากแม่ว่าอยู่ไหน และแม่ก็ได้นำเงินมากให้ ซึ่งจูก็ตกใจว่า แม่มีเงิน 2 แสนได้ยังไง ไปเอามาจากไหน

ซึ่งแม่ก็ได้บอกจูไปว่า นี่เป็นเงินของจู ซึ่งเพื่อนสนิทของเขาเก็บเงินอีกส่วนนึงไว้ให้จูตลอดมา
เพราะเห็ว่าจู ใช่เงินฟุ่มเฟือย เลยแบ่งเงินเดือน เป็นสัดส่วนไว้ให้ลูก และมาฝากไว้ที่แม่

จากนั้น จูกก็ตกใจ ไม่คิดว่าเพื่อนสนิท จะดีกลับเธอขนาดนี้ และดีกลับครอบครัวของเธอมาดดยตลอดและสิ่งนี้ก็ทำให้ จู คิดได้ และรู้สึกผิด ที่ทำตัวไม่ดีกับสนิทที่ให้โอกาสจูมาตลอด

และแม่ก็ได้ สอนจูไปอีกว่า จำไว้น่ะลูก เกิดเป็นคนต้องรู้จักบุญคุณ
อย่าได้หลงตัวเอง คนที่ไม่รู้จักบุญคุณ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จหรอกน่ะลูก

จากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้ข้อคิดทิ้งท้ายไว้ว่า อย่ามองว่าการช่วยเหลือของคนอื่น คือสิ่งจำเป็นที่เขาต้องช่วยเหลือเรา คนที่ไม่รู้จักบุญคุณ ยังไงก็ไม่มีทางเจริญ

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก เพจ ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์

บทความที่คุณอาจสนใจ