ครูออกเงินซื้อรองเท้าให้เด็กคนหนึ่ง 28 ปีต่อมา เด็กคนนั้น "ซื้อบ้าน" ตอบแทนบุญคุณครู

LIEKR:

ผมเคยรับไม่ได้กับความจนของตัวเองจนไม่อยากไปโรงเรียน แต่ได้คุณครูท่านนี้.. ทำให้ผมกลับมาเรียนอีกครั้ง

        สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีคุณครูเกษียณอายุคนหนึ่งที่มองโกเลีย ได้เปิดบ้านต้อนรับช่างภาพให้เข้าไปถ่ายอย่างเต็มใจ ด้านในสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบเรียบร้อยดูสบายมาก คุณครูจางเล่าว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่นักเรียนคนหนึ่งที่ตนสอนซื้อให้เมื่อปี 2007

        นักเรียนคนที่ซื้อบ้านหลังนี้ให้ครูจางคือเฉิน ปี 1979 ครูจางสอนชั้นป.2 โดยครูจางสอนเขาอยู่สองปีคือป.2 กับป.3

        บ้านของเฉินลำบากมาก ฤดูหนาวครูจางพบว่าด.ช.เฉินไม่มีรองเท้าผ้าฝ้ายใส่ ที่เมือง Hohhot อุณหภูมิในฤดูหนาวติดลบสิบกว่าองศา คุณครูสงสารมาก ก็เลยใช้เงินตัวเองซื้อรองเท้าผ้าฝ้ายและหมวกให้ด.ช.เฉิน

        ต่อมามีช่วงระยะหนึ่งที่ด.ช.ทนกับความจนไม่ไหว จนไม่อยากมาโรงเรียน ครูจางก็พาเพื่อน ๆ ในห้องไปหาด.ช.เฉินที่บ้าน และพาเขากลับมาเรียนอีกครั้ง สำหรับด.ช.เฉินแล้ว ไม่มีครูจางก็ไม่มีเขาในวันนี้

        ครูใหญ่ของโรงเรียนบอกว่า ครูจางเกษียณมาหลายปีแล้ว เป็นครูใจดีที่โด่งดังของโรงเรียน ช่วยนักเรียนมามากมาย วันเกิดปี 2007 ที่ครูจางอายุครบ 60 ปี เฉินนักเรียนที่ครูจางเคยช่วยไว้กลับมาฉลองวันเกิดกับคุณครู เขาเห็นครูจางยังอาศัยอยู่ที่บ้านพักครูหลังโรงเรียน ก่อนจากไปก็เลยมอบเงิน 450,000 บาทให้ครูจางเอาไปซื้อบ้านเป็นของขวัญวันเกิด

        พอครูจางซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็เชิญเฉินมาที่บ้าน เฉินบอกว่า แค่ครูจางชอบ อยู่สบายก็เพียงพอแล้ว 

        

        โดยหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความเห็น การได้เจอครูดี ๆ สามารถเปลี่ยนชีวิตนักเรียน ซึ่งนักเรียนก็จะตอบแทนบุญคุณ

        ทำอะไรไว้ก็ได้แบบนี้ ปลูกอะไรไว้ก็ได้ต้นนั้น เมื่อปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความปรารถนาดีและความหวังให้นักเรียน ใช้หัวใจดูแลอบรมสั่งสอน นักเรียนถึงจะเติบโตมาเป็นต้นไม้ใหญ่ ที่รู้จักสำนึกบุญคุณและตอบแทน

        ในฐานะครูต้องเป็นคนยุติธรรม ผลการเรียนของนักเรียนมีดีมีไม่ดี ฐานะทางครอบครัวก็มีทั้งจนและรวย ความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียนก็มีทั้งสูงและต่ำ คุณครูต้องยุติธรรมกับนักเรียนทุกคน ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ลำเอียง คุณครูเลือกปฏิบัติกับนักเรียนคนหนึ่ง นักเรียนคนอื่นก็จะคอยแกล้งเด็กคนนั้นตามครู สภาพแวดล้อมแบบนี้ส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อการเรียนรู้และการเติบโตของเด็ก ๆ

        การอบรมสั่งสอนของโรงเรียนและครอบครัวไม่ต่างกัน การสั่งสอนที่ดีที่สุดคือความรัก คุณครูที่ดีจะรักในอาชีพการสอน เป็นห่วงเป็นใยเด็ก มีความอดทนและอ่อนโยนต่อเด็กที่ทำผิด หรือเด็กดื้อ รู้จักค้นหาจุดแข็งของเด็ก ให้กำลังใจและชื่นชม จะทำให้เด็กมีแรงจูงใจและความกระตือรือร้นอย่างไร้ขีดจำกัด และยิ่งทำให้นักเรียนรู้สึกขอบคุณ ในขณะที่การดุด่าทุบตีจะทำให้เด็กยิ่งดื้อและต่อต้านขึ้นอีกหลายเท่า เป็นการปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง

ที่มา : starfocus | เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความที่คุณอาจสนใจ