เปิดคำทำนายเมืองไทย 2564 โดยโหรวสุ จะกลายเป็นแดนสนธยา พร้อมบอกอาชีพที่จะรอด

LIEKR:

โหรวสุเผย "ดวงเมือง 2564" สุดสะพรึง ถึงขนาดเป็น "แดนสนธยา" เปิดอาชีพที่รอด!

    เมื่อมาถึงช่วงต้นปีของทุกปี โหรชื่อดังของเมืองไทยอย่าง โหรวสุ หรือ วสุวัส คำหอมกุล จะโพสต์คำทำนายพยากรณ์ เปิดเผยเบื้องลึกของดวงเมืองไทย ประจำปี พ.ศ.2564 ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว

    ในเฟซบุ๊ก แฟนเพจ Wasu โหรวสุ กล่าวรวมถึงดวงเมืองประเทศไทยไว้ว่า ในปี 2564 นี้ การโคจรของดาวต่างๆ ดีขึ้นกว่าปี 2563 เพราะดาวโคจรผิดปกติน้อยลง แต่ดาวพฤหัสที่เป็นดาวใหญ่ที่สำคัญก็ยังโคจรผิดปกติ อีกทั้งตำแหน่งของราหูที่อยู่ในมุมล้วงทรัพย์ดวงเมือง และดาวเสาร์ที่เล็งกับดวงจันทร์

    ดวงเมืองจะยังคงทำให้ประเทศไทยเจอกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเมืองหนักกว่าปี 2563 แม้วิกฤตที่เผชิญกันทั่วโลกจะเบาบางลงก็ตาม

    1. ดวงเมืองช่วง ม.ค. - มี.ค. 64

    - การเมือง ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ รวมถึงยังไม่มีการออกนโยบายหรือกฏหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ หน่วยงานราชการหลายแห่งจะทำตัวเฉื่อยชา ใส่เกียร์ว่างไม่ค่อยทำหน้าที่ของตัวเอง จนกว่าจะเข้าช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟลนก้น ทั้งในการเมืองและหน่วยงานราชการ จะมีการออกกฏหมายและนโยบายเร่งรีบ เพื่อเอางบประมาณหรือสร้างภาพ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อน

    - เศรษฐกิจ สังคม ธุรกิจต่างๆ หยุดชะงักไม่มีความคืบหน้า รวมถึงธุรกิจด้านบริการและท่องเที่ยวอาจปิดกิจการ หรือหยุดพักชั่วคราว ส่วนปัญหาที่ต้องระวังคือหนี้สิน จะมีคนที่หนี้เยอะก่อปัญหาทางอาชญกรรม คดีความเกี่ยวกับการทวงหนี้ล้นศาล

    2. ดวงเมืองช่วง เม.ย. - ก.ย. 64

    - การเมือง จะเป็นช่วงที่การเมืองมีความดุเดือด ขัดแย้งมากขึ้น หลายฝ่ายจะเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เปลี่ยนแปลงนโยบายหรือกฏหมาย รวมไปถึงคนจนหรือเจ้าของกิจการที่ต้องปิดกิจการ จะเรียกร้องให้รัฐรับผิดชอบหรือลาออก

    และถ้ารัฐบาลยังคงเมินเฉยต่อข้อเรียกร้องของประชาชนเหล่านี้ ทั้งหมดจะรวมตัวกันเข้ามาในกรุงเทพฯ นำไปสู่ความรุนแรงเหมือนช่วงเมษาปี 2552 และ พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ส่งผลต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาล รัฐบาลชุดเดิมจะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ ถ้าไม่มีการปรับขั้วการเมืองใหม่

    แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้จะทำให้พรรคฝ่ายค้านเกิดการขัดแย้งเช่นกัน ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีหลังรัฐบาลนอกจากจะไม่มีความน่าเชื่อถือ ฝ่ายค้านยังไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และล้มเหลวในการผลักดันรัฐธรรมนูญที่ผลักดันกันมาตั้งแต่ปี 2563 กลับไปเริ่มนับศูนย์ใหม่ที่ไม่มีการแก้ไขเกิดขึ้น

    - เศรษฐกิจ สังคม สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย การท่องเที่ยวและการเดินทางติดต่อต่างประเทศเริ่มกลับมา งานอีเวนท์ต่างๆ ที่ถูกยกเลิกจะได้กลับมาจัดในช่วงนี้เป็นต้นไป แต่พอเกิดปัญหาการเมืองอาจทำให้สะดุดเป็นพักๆ

    อย่างไรก็ตามพอเข้าช่วงเดือนกันยายน เศรษฐกิจจะกลับมามีปัญหาต่อ เพราะเงินหมุนเวียนมีปัญหา ค่าเงินบาทไม่แน่นอน และปัญหาหนี้สินรัฐบาล ส่งผลให้มีการตัดงบในหน่วยงานต่างๆ และสวัสดิการช่วยเหลือประชาชน เกิดวิกฤตเงินฝืดรุนแรง

    3. ดวงเมืองช่วง ต.ค - ธ.ค. 64

    - การเมือง จะเป็นช่วงที่วุ่นวาย ทำงานไม่ได้เพราะเกิดความขัดแย้งทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต้องเริ่มกลับมานับหนึ่งใหม่ ส่งผลให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องและกดดันรัฐบาลมากขึ้น แต่การเมืองจะติดล็อคไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากศาลและองค์กรอิสระไม่วางตัวเป็นกลาง จนถึงผู้มีอำนาจไม่ยอมถอย ส่งผลให้เดือน ต.ค. - พ.ย. มีโอกาสที่การเมืองไทยจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ถอยหลังกลับไปอยู่ในยุคจอมพลสฤษดิ์อีกครั้ง

     - เศรษฐกิจ สังคม ปัญหาการเมืองทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ทำให้เศรษฐกิจปลายปีหยุดชะงัก ไม่มีใครกล้าลงทุนกล้าใช้เงิน จนกว่าจะมีรัฐบาลที่น่าเชื่อถือ ทำให้ธุรกิจค้าปลีกและท่องเที่ยวบางส่วนที่เคยเอาตัวรอดมาในปีก่อนได้ ต้องหยุดกิจการในปีนี้

    สถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เจอปัญหาขาดทุน หนี้เสีย และค่าเงินบาท ต้องมีการแปรรูปใหม่ หรือโดนรัฐบาลขายทิ้งไปเพื่อตัดปัญหา อาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นมากกว่าช่วงกลางปี และธุรกิจสีเทาเช่นการปล่อยเงินกู้ใต้ดิน ทำเงินได้มากกว่าธุรกิจถูกกฏหมาย และไม่มีกฏหมายไปทำอะไรได้

    ส่งผลให้ประเทศไทยในช่วงปลายปี 2564 ค่อนข้างจะเป็นแดนสนธยา คนที่ทำธุรกิจถูกกฏหมายอาจอยู่ไม่รุ่ง แต่อีกฝั่งกลับมีคนเกรงใจ มีอำนาจบารมี และอาจได้เข้าไปมีตำแหน่งในการเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยอมรับว่าตัวเองทำผิด และยืนข้างความถูกต้องมากกว่าพยายามดันทุรังให้ตัวเองถูกจนไม่เคยทำผิด จนถึงกับต้องยอมบิดเบือนกฏหมาย

    ส่วนธุรกิจที่จะเติบโตในปี 2564 และเอาตัวรอดได้ดีคือ

    1. ธุรกิจด้านบริการการแพทย์ และส่งเสริมสุขภาพ

    2. ธุรกิจด้านรับเหมาตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน และแก้ไขปัญหาต่างๆ

    3. ธุรกิจด้านการปล่อยสินเชื่อ และเงินกู้

    4. ธุรกิจด้านค้าขายอาหารแบบ Delivery และบุฟเฟต์ราคาถูก

    5. ธุรกิจด้านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบ IT ที่ใช้เทคโนโลยี 5G ที่สร้างความปลอดภัยให้กับที่อยู่อาศัย สำนักงาน และคนภายในครอบครัว

ที่มา : Wasu โหรวสุ

บทความที่คุณอาจสนใจ